จิตวิทยาในการใช้ชีวิตประจำวัน Psychology in Daily Life
จิตวิทยาในการใช้ชีวิตประจำวัน (Psychology in Daily Life) หมายถึง การศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์ เพื่ออธิบาย คาดการณ์ หรือควบคุมพฤติกรรมของมนุษย์ เพื่อจะได้เข้าใจและสามารถนำชีวิตของเราให้ดำเนินไปได้อย่างเฉลียวฉลาด และยังมีอิทธิพลต่อบุคคลอื่นที่อยู่ร่วมกับเราด้วย เพื่อชีวิตของเราจะมีความสุขและประสบความสำเร็จมากขึ้น ดังคำกล่าวที่ว่า
“คนเราเกิดมามีชีวิตอยู่กับคน เรียนรู้ และทำงานร่วมกับคน ใช้สิ่งต่างๆ ในสังคม ร่วมกับคน มีชีวิตอยู่ได้ทุกวันนี้ ก็เพราะคน”
♡ จิตวิทยาในชีวิตประจำวัน มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของบุคคล ♡
1. ช่วยให้เกิดความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ รู้ถึงความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ มนุษย์เกิดความรู้สึกอย่างไรเมื่อไม่สามารถสนองตอบความต้องการของตนเองได้ และอะไรเป็นแรงผลักดันให้คนแสดงพฤติกรรมต่างกัน
2. ช่วยในการปรับตัวและแก้ปัญหาทางจิตใจของตนเอง รู้วิธีรักษาสุขภาพจิตของตนเอง รู้วิธีเอาชนะปมด้อย วิธีการแก้ปัญหาความขัดแย้ง และขจัดความวิตกกังวลต่างๆ ได้
3. ช่วยให้เกิดการตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและผู้อื่นได้ดีขึ้น สามารถเข้าใจและรู้จักปรับตัวเองให้เข้ากับผู้อื่น
คนที่ดำรงชีวิตอย่างมีความสุข คือคนที่มีความสมหวัง สามารถประกอบกิจการงานประสบความสำเร็จตามความปรารถนา มีร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ไม่มีอารมณ์ขุ่นมัวหรือวิตกกังวล มีอารมณ์มั่นคง มีความอดทนและมีความสามารถต่อสู้อุปสรรคต่างๆ ได้ เป็นคนที่ยอมรับความจริงในชีวิต ทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม สรุปว่า คนที่มีความสุขก็คือ คนที่มีสุขภาพดีทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เป็นคนที่สามารถปรับตัวได้อย่างดีในการดำรงชีวิตประจำวัน
♡ ผลที่ได้รับจากการนำหลักด้านจิตวิทยามาใช้ในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข♡
รักษาสุขภาพทางกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ
รู้จักตนเองอย่างแท้จริงเป็นผู้มีความหวังกล้าเผชิญกับความกลัวและความกังวลใจไม่เก็บกดอารมณ์ที่ตึงเครียดเป็นผู้มีอาบรมณ์ขันยอมรับข้อบกพร่องและข้อผิดพลาดของตนเองรู้จักพอใจในสิ่งที่ตนทำอยู่มีความต้องการพอเหมาะพอควรและมีความยืดหยุ่นได้ไม่คิดถึงแต่ตัวเองตลอดเวลายอมรับสภาพของตัวเองโดยไม่เปรียบเทียบกับคนอื่นเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับหาเพื่อนสนิทที่สามารถระบายความทุกข์และปรึกษาหารือได้จงปล่อยให้เหตุการณ์บางอย่างผ่านไปตามแนวทางของมันจงตระหนักว่า เวลาเป็นยารักษาความเจ็บปวด เมื่อพลาดหวังหรือผิดหวังไม่ปล่อยให้เวลาว่างไปวันหนึ่งๆ โดยไม่ทำอะไร
รู้จักตนเองอย่างแท้จริงเป็นผู้มีความหวังกล้าเผชิญกับความกลัวและความกังวลใจไม่เก็บกดอารมณ์ที่ตึงเครียดเป็นผู้มีอาบรมณ์ขันยอมรับข้อบกพร่องและข้อผิดพลาดของตนเองรู้จักพอใจในสิ่งที่ตนทำอยู่มีความต้องการพอเหมาะพอควรและมีความยืดหยุ่นได้ไม่คิดถึงแต่ตัวเองตลอดเวลายอมรับสภาพของตัวเองโดยไม่เปรียบเทียบกับคนอื่นเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับหาเพื่อนสนิทที่สามารถระบายความทุกข์และปรึกษาหารือได้จงปล่อยให้เหตุการณ์บางอย่างผ่านไปตามแนวทางของมันจงตระหนักว่า เวลาเป็นยารักษาความเจ็บปวด เมื่อพลาดหวังหรือผิดหวังไม่ปล่อยให้เวลาว่างไปวันหนึ่งๆ โดยไม่ทำอะไร
"ความสุขเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นภายในจิตใจ เป็นการมองชีวิต มองตัวเอง และมองผู้อื่น ดังนั้นความสุขจึงเกิดขึ้นได้กับคนทุกชนชั้นไม่ว่าผู้ดี มั่งมี หรือยากจน "
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น